วัน: 27 ตุลาคม 2019

โหดลืม Hennessey Goliath 6×6 รถกระบะคัสตอม จากสำนักแต่ง Hennessey ชื่อดังของเท็กซัส อเมริกา ที่นำเอา Chevy Silverado Trail Boss 2019 มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็นมอนสเตอร์ 6 ล้อ พร้อมลุยทุกอย่างที่ขวางหน้า ยิ่งรู้ราคาแล้วยิ่งหนาว

Ford Ranger Raptor 2018 ราคา 1.69 ล้านบาท ว่าสุดแล้ว พอเจอ Hennessey Goliath 6×6 จากสำนักแต่ง Hennessey ชื่อดังของเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าไป บอกเลยว่า Ford Ranger Raptor 2018 เป็นอะไรที่ซอฟต์มากและ Hennessey Goliath 6×6 ไม่จำเป็นต้องเหาะโชว์ เพราะล้อทั้ง 6 มีไว้ตะกุยทุกอย่างที่ขวางหน้า บาคาร่า สูตรบาคาร่า

ไม่ต้องสงสัยว่าชื่อ Hennessey นี่คือ Hennessey เดียวกับผู้สร้าง Venom GT และ Venom F5 ไฮเปอร์คาร์ที่เกิดมาเพื่อทำลายสถิติโลกหรือไม่ เพราะใช่เลย ซึ่ง Hennessey ไม่ได้ถนัดเฉพาะพาหนะทางเรียบ แม้แต่รถ SUV ไปจนถึงรถกระบะฟูลไซส์ก็จับมาดัดแปลงได้หมด

โดยผลงานที่ใกล้เคียงกับ Hennessey Goliath 6×6 ก่อนหน้ามี Hennessey Velociraptor 6×6 ซึ่งเป็นการนำเอา Ford F-150 Raptor มาดัดแปลงซะโหดจนขนลุกและตอนนี้ก็ถึงคิวของ Chevrolet Silverado 2019 โฉมใหม่ ที่จะกลายเป็นมอนสเตอร์ไปอีกรุ่น

สำหรับ Hennessey Goliath6x6 นั้นเป็นการนำเอา All-new Chevrolet Silverado Trail Boss Z71 มาดัดแปลงโดยทีม HPE (Hennessey Performance) ให้กลายเป็นรถกระบะ 6 ล้อ ขับเคลื่อน 6 ล้อ ระบบกันสะเทือนหลังใหม่ยกแพ ตัวรถยกสูงอีก 8 นิ้ว กระบะหลังออกแบบใหม่ทั้งชิ้น เสริมโรลบาร์พร้อมแผงไฟ LED ยัดล้อของ Hennessey ขนาด 20 นิ้ว กับยางออฟ-โรดของ BF Goodrich พร้อมบุกทุกที่ที่ไม่มีทาง

ส่วนขุมพลัง Hennessey Goliath6x6 ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ขนาด 6.2 ลิตร เดิม ๆ ติดรถ All-new Chevrolet Silverado Trail Boss Z71 แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพละกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 420 เป็น 714 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดจาก 623 เป็น 915 นิวตันเมตร จากการเติมซูเปอร์ชาร์จและเปลี่ยนชุดท่อไอเสียใหม่เป็นแบบสแตนเลส ซึ่งช่วยให้กระบะยักษ์ 6 ล้อ พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาไม่เกิน 5 วินาที

แต่ถ้าตัวเลข 714 แรงม้า ยังไม่ทำให้เจ้าของ Hennessey Goliath6x6 ภูมิใจได้อย่างเต็มที่ ทาง Hennessey มีออปชั่นเสริม ปรับแต่งเครื่องยนต์เพิ่มพลังให้สูงไปได้ถึง 808 แรงม้า หรือจะเลือกอัปเกรดเบรก Brembo รวมถึงคัสตอมการตกแต่งห้องโดยสารก็ได้ด้วย

ทั้งนี้ Hennessey Goliath6x6 จะผลิตจำหน่ายเพียง 24 คัน และพร้อมส่งออกไปยังทั่วโลกไม่จำกัดเฉพาะอเมริกาถ้าต้องการ ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งเจ้า Hennessey Goliath6x6 ได้โดยตรงผ่านทาง Hennessy หรือตัวแทนจำหน่าย Chevrolet ก็ได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 375,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 12 ล้านบาท แพงแค่ไหน ก็แพงกว่า Lamborghini Urus ในอเมริกา ที่เริ่มต้นแค่ประมาณ 200,000 ดอลลาร์หรือ 6.5 ล้านบาท เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม Hennessey Goliath6x6 โปรเจกต์ใหม่ตัวจริงยังต้องรอให้ All-new Chevrolet Silverado 2019 ไหลออกจากสายการผลิตก่อนถึงจะนำมาคัสตอมโชว์ได้ เราจึงนำคลิป Hennessey Velociraptor6x6 ที่ใช้พื้นฐาน Ford F-150 มาให้ชมกันพลาง ๆ เป็นตัวอย่าง เพราะรูปแบบการตกแต่งคล้ายกัน เผื่อใครคิดสั่งเข้ามาขับเล่นจะได้รีบตัดสินใจ แต่อย่าลืมบวกภาษีสรรพสามิตของไทยเข้าไปด้วยแล้วกัน

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Subaru Outback 2018 เปิดตัว พร้อมเข้าจำหน่ายในไทย Subaru Outback 2018 มีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว ราคา 2.51 ล้านบาท

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 มอเตอร์ อิมเมจ ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุใน 9 ประเทศ ทั่วเอเชีย เปิดตัว ซูบารุ เอาท์แบ็ค 2018 (Subaru Outback 2018) ภายในงาน Subaru Thailand Palm Challenge 2018 ซูบารุแตะรถชิงรถครั้งที่ 11 ณ ลานอเนกประสงค์ เซ็นทรัลเวิลด์

Subaru Outback 2018 รุ่นย่อย 2.5i-S เปิดราคาจำหน่าย 2,512,000 บาท

• ปรับโฉมกันชนด้านหน้า
• ปรับกระจังหน้าแบบหกเหลี่ยม
• ล้อแม็กซ์ลายใหม่ ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบา 

Subaru Outback 2018 รุ่นย่อย 2.5i-S กับขุมกำลัง Boxer ปรับปรุงในบางจุด

เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ สูบนอน ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที  ส่งกำลงด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT มีโหมดใช้งาน 7 สปีด บาคาร่า สูตรบาคาร่า

มีการพัฒนาไดชาร์จรุ่นใหม่ ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและมีน้ำหนักเบาลงถึง 8%, การตอบสนองของลิ้นปีกผีเสื้อที่ไวกว่าเดิม ช่วยให้อัตราการเร่งดีขึ้น, การเปลี่ยนโซ่สายพานส่งกำลังให้มีความละเอียด ลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์สู่ห้องโดยสาร เคลมว่าใช้เชื้อเพลิงประหยัดขึ้น 3% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์

Subaru Outback 2018 เพิ่มออปชั่นและความปลอดภัย

ระบบไฟหน้าแบบปรับทิศทางอัตโนมัติตามพวงมาลัย (Steering Responsive Headlights) ช่วยให้ลำแสงไฟหน้าเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของการหักพวงมาลัยรถ

จุดบอดด้านหน้ายังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยกล้องที่ติดตั้งอยู่ส่วนล่างของกระจังหน้าและกระจกข้างซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบได้เมื่อขับขี่ในพื้นที่แคบ

ระบบ STABLEX-Ride เพื่อการขับขี่ที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น การบังคับพวงมาลัยที่ดียิ่งขึ้น และการสั่นสะเทือนของตัวถังที่น้อยลง

ระบบ X-MODE ช่วยให้ควบคุมเครื่องยนต์ได้มีประสิทธิภาพ ระบบ Symmetrical All-Wheel Drive (S-AWD) และระบบเบรกทำให้การขับขี่ปลอดภัยในทุกสภาพถนน

Subaru Outback2018 มีเลือกสีใหม่ 3 รวมทั้งหมดเป็น 12 สี

• สีเขียวเมทัลลิก Wilderness Green Metallic *ใหม่
• สีแดงมุก Crimson Red Pearl *ใหม่
• สีน้ำตาลมุก Oak Brown Pearl *ใหม่
• สีทอง Tungsten Metallic
• สีขาวมุก Crystal White Pearl
• สีเงิน Ice Silver Metallic
• สีฟ้า Lapis Blue Pearl
• สีน้ำเงิน Deep Sea Blue Pearl
• สีแดง  Venetian Red Pearl
• สีเทา Platinum Grey Metallic
• สีเทาเข้ม Dark Grey Metallic
• สีดำ Crystal Black Silica

ข้อมูลจำเพาะ Subaru Outback2018

ขนาดและน้ำหนัก
ยาว / กว้าง / สูง (มม.)	4,820 / 1,840 / 1,675
ความยาวช่วงล้อ (มม.)	2,745
ขนาดยาง	225 / 60 R18
น้ำหนักรถเปล่า (กก.)	1,634
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.)	213
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์แบบ	เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบนอน DOHC 16-Valve พร้อมระบบ Multi Point Sequential Injection
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.)	2,498
กำลังสูงสุด (แรงม้า / รอบต่อนาที)	175 / 5,800
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที)	235 / 4,000
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร)	60
ช่วงล่างและระบบกันสะเทือน
ระบบส่งกำลัง	เกียร์อัตโนมัติแบบ Lineartronic
ระบบเบรก (หน้า/หลัง)	ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน / ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง)	แม็คเฟอร์สันสตรัท / ดับเบิลวิชโบน
อุปกรณ์ภายนอก
ไฟตัดหมอกหน้า LED	ระบบฉีดน้ำล้างโคมไฟหน้า
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED	หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า
เสาอากาศวิทยุแบบครีบฉลาม	ท่อไอเสียคู่
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED	โคมไฟหน้า LED ปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกหลัง	สปอยเลอร์หลังคา
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED	โคมไฟหน้า LED ปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกหลัง	สปอยเลอร์หลังคา
ระบบความปลอดภัย
ระบบเบรก ABS แบบ 4-Sensor / 4-Channel พร้อมระบบกระจายแรงเบรก	สัญญาณเตือนเบรกฉุกเฉิน
ระบบควบคุมแรงบิดแบบ Active Torque Vectoring	จุดยึดเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ISO-FIX
ระบบเสริมแรงเบรก	แป้นเหยียบแบบยุบตัวได้
ระบบป้องกันคันเร่งค้าง	คานเหล็กนิรภัยเสริมความแข็งแรงบริเวณข้างประตู
ระบบป้องกันการโจรกรรม	ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย SRS
ระบบควบคุมการทรงตัว (VDC)	ถุงลมนิรภัย SRS ป้องกันหัวเข่า
ฟังก์ชั่นการทำงานและอุปกรณ์เสริม
ระบบเครื่องเสียง พร้อมหน้าจอขนาด 8 นิ้ว	กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบตรวจจับมุมอับสายตา	ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ	หน้าจอแสดงผลแบบ High Grade
ระบบไฟเลี้ยวแบบสัมผัส	แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ	ที่วางแขนด้านหลัง
แผ่นปิดพื้นที่บรรทุกสัมภาระแบบพับได้	เซ็นเซอร์ถอยหลัง
ไฟหน้าปรับองศาตามการหมุนของพวงมาลัย	พวงมาลัยปรับระดับได้
ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ	ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัด
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone	เบรกมือไฟฟ้า
เบาะหนัง	พวงมาลัยมัลติฟังชันก์พร้อม cruise control
ระบบตั้งรหัสผ่าน PIN Code Access	เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
กล้องมองหลัง	เบาะหลังปรับเอนได้
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ SI-DRIVE	เข้าสู่รถและสตาร์ตรถโดยไม่ใช้กุญแจ
ช่องเสียบ USB และ AUX	ระบบสั่งการด้วยเสียง
เบาะหลังพับได้แบบ 60 / 40

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Mitsubishi Attrage 2018 อัปเดตใหม่ เพิ่มอารมณ์สปอร์ต ปรับปรุงการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยคุ้มค่า โดย  Mitsubishi Attrage 2018 ใหม่ มีให้เลือก 4 รุ่น 6 สี ราคาเริ่มต้น 483,000-613,000 บาท

วันที่ 29 ตุลาคม 2561 บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ (New Mitsubishi Attrage 2018) อัปเดตความสดใหม่ ให้กับอีโคคาร์คันเก่ง ด้วยการปรับปรุงภายนอก-ภายในให้ดูสปอร์ตมากขึ้น เพิ่มอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกสบายให้สมบูรณ์มากขึ้น แม้จะเปิดตัวมานานแต่ปัจจุบัน Mitsubishi Attrage ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องจากขนาดตัวที่กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับใช้งานในเมือง อุปกรณ์ครบ โดยราคาเริ่มต้นยังน่ารัก เพียง 483,000 บาท บาคาร่า สูตรบาคาร่า

Mitsubishi Attrage2018 ใหม่ ปรับปรุงการตกแต่งภายนอก ในระดับรายละเอียด ให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าลายรังผึ้ง (Honey Comb) พร้อมคิ้วฝากระโปรงท้าย โครเมียมรมดำ รวมถึงล้ออัลลอยพ่นสีดำเงา ขนาด 15 นิ้ว ส่วนดีไซน์หลัก คงเดิม และมีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 6 สี ได้แก่

ขณะที่ภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Attarge 2018 มีการปรับปรุง เพิ่มเติมเล็กน้อย ดังนี้

• เบาะหนังสีดำ (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
• ระบบเซ็นทรัลล็อก พร้อมปุ่มล็อกและปลดล็อก
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าและฝาปิด
• ที่พักแขนบริเวณเบาะคนขับและเบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้

• กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
• ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ปรับระดับสูง-ต่ำได้
• ช่องเก็บของด้านหลังเบาะที่นั่งคู่หน้า
• มือจับเหนือศีรษะแบบพับได้

มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ ยังเพียบพร้อม ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย อาทิ

• กุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
• พวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมระบบครูสคอนโทรล
• ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ รองรับ Apple CarPlay ที่มาพร้อมกับ SIRI ระบบสั่งงานด้วยเสียง และสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์บลูทูธแบบไร้สาย พร้อมจอแสดงภาพระบบสัมผัสรองรับ DVD/MP3

นอกจากนี้ Mitsubishi Attarge ยังคงมีระบบความปลอดภัย ในเชิงป้องกัน และปกป้องครบครัน ได้แก่

• ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วที่ความเร็วต่ำ (FCM-LS)
• ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (RMS-FORWARD)
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
• ระบบป้องกันล้อล็อก ขณะเบรก (ABS) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
• ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
• กล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด

Mitsubishi Attarge 2018 ใหม่ มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ราคา ดังนี้

• รุ่น GLX 5 MT (เกียร์ธรรมดา 5 สปีด)                ราคา 483,000 บาท
• รุ่น GLX CVT (เกียร์อัตโนมัติ)                           ราคา 517,000 บาท
• รุ่น GLS CVT (เกียร์อัตโนมัติ)                           ราคา 572,000 บาท
• รุ่น GLS-LTD CVT (เกียร์อัตโนมัติ)                   ราคา 613,000 บาท

ไม่แน่ใจว่า นี่จะเป็นการอัปเดตเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วงปลายอายุตลาด เพื่อปล่อยของประคับประคองยอดขาย ก่อนที่ Mitsubishi Mirage 2019 ซึ่งน่าจะรวมถึง Attrage โฉมใหม่ เตรียมเปิดตัวในปี 2019 หรือไม่ หากว่ากันตามข่าวลือ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะถ้าเป็นจริง ก็เหลือเวลาอีกไม่มากนัก

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

All new Toyota Camry 2019 รถซีดานขนาดกลางคู่แข่ง All new Honda Accord 2019 เปิดตัวในไทย เน้นสปอร์ต แพลตฟอร์ม TNGA และขุมพลัง Hybrid โดย All new Toyota Camry 2019 ให้เลือก 7 สี 4 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 1,445,000-1,799,000 บาท

วันที่ 29 ตุลาคม 2561 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว  โตโยต้า คัมรี โฉมใหม่ (All-new Toyota Camry 2019) รถซีดานขนาดกลางคู่แข่งสำคัญของ All-new Honda Accord 2019 รวมถึง All-new Nissan Teana 2019 ซึ่งพร้อมใจกันพลิกดีไซน์แบบมโหฬาร มุ่งสู่ความเป็นสปอร์ตซีดานพรีเมียมโดยมิได้นัดหมาย (แต่อาจตั้งใจ) ส่วนใครจะเด็ดกว่าใครนั้นยังตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ All-new Toyota Camry 2019 นำไปก่อน 1 ก้าว เพราะมาไทยไวที่สุด บาคาร่า สูตรบาคาร่า

โดยจุดเด่นหลักของ All-new Toyota Camry 2019 คงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องดีไซน์เหมือนกับคู่แข่ง ซึ่งต่างจากโฉมเดิมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ พร้อมชูจุดเด่นแพลตฟอร์มใหม่ TNGA ที่ Toyota เฝ้าโปรโมตอย่างจริงจังและต่อเนื่องว่า ไม่ได้มีดีแค่ “เปลือกนอก” ซึ่งเดิมทีลูกค้าน้อยรายจะสนใจลึกถึงระดับแพลตฟอร์ม แม้จะมีผลมากมายต่อการขับขี่ของรถยนต์มานานแล้วก็ตาม

All-new Toyota Camry 2019 พยายามออกแบบให้ดูสปอร์ต น่าตื่นเต้นและยังคงความเป็นพรีเมียมซีดาน ด้วยการนับหนึ่งใหม่บนแพลตฟอร์ม TNGA ซึ่ง Toyota เคลมว่า All-new Toyota Camry จะให้สมรรถนะและตอบสนองต่อการขับขี่ดีเยี่ยม ทรงพลังแต่สุขุม มั่นคงบนความเร็วสูง จากโครงสร้างที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แข็งแกร่งทนการบิดตัว นอกจากนี้โครงสร้างตัวถังยังใช้เหล็กประเภท Ultra-high-tensile อัดขึ้นรูป เพื่อลดน้ำหนัก แต่ให้ความปลอดภัยสูงกว่าแบบ High-tensile

นอกจากนี้ All-new Toyota Camry 2019 ยังให้ความสบาย นุ่มนวล ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก 4 จุด เป็นครั้งแรกของ Toyota ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ ด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังปีกนกสองชั้น ได้รับการพัฒนาใหม่หมด พวงมาลัยไฟฟ้าฉับไว เพิ่มความเสถียร ให้การตอบสนองแบบรถพรีเมียมซีดานจริง ๆ ไม่ใช่แค่คำโฆษณา

ส่วนภายใน All-new Toyota Camry2019 มีดีไซน์และบรรยากาศที่สปอร์ตมากขึ้น การจัดวางองค์ประกอบรอบห้องโดยสารต่ำลง จุดเด่นคือแผงหน้าปัด Y-Shaped ทรงแปลกตาดีไซน์กล้าหาญมากกว่าคู่แข่ง กลมกลืนเนียนไปกับจออินโฟเทนเมนต์ เบาะนั่งหน้า-หลังค่อนข้างสปอร์ต กระชับลำตัว เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (ทุกรุ่นย่อย) เบาะหลังปรับเอนไฟฟ้าพร้อมแผงควบคุมดิจิทัล รวมถึงลำโพง JBL รวม 9 ตัว มีเฉพาะรุ่นย่อย 2.5 HV ขณะที่ระบบ T-Connect TELEMATIC มีในรุ่น Hybrid เท่านั้นAll-new Toyota Camry 2019 จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่

• 2.0 G                                         ราคา 1,445,000 บาท
• 2.5 G                                         ราคา 1,589,000 บาท
• 2.5 HV (Hybrid)                          ราคา 1,639,000 บาท
• 2.5 HV Premium (Hybrid)            ราคา 1,799,000 บาท

โดยรายละเอียดขุมพลังแต่ละแบบ มีดังนี้

• 2.0 G

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร หัวฉีดตรง (D-4S) VVT-iw ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

• 2.5 G

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร หัวฉีดตรง (D-4S) VVT-ie ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

• 2.5 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร หัวฉีดตรง (D-4S) ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะให้กำลังสูงสุดรวมกันทั้งระบบที่ 211 แรงม้า แต่สเปกไทยยังใช้แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) ขณะที่ญี่ปุ่นใช้แบบ Lithium-ion (Li-ion)สำหรับ All-new Toyota Camry2019 มีสีตัวถังภายนอกให้เลือกทั้งหมด 7 สี คือ

• สีดำ Burning Black (เฉพาะรุ่น 2.5 HV Premium) – ภายในสีครีม
• สีน้ำตาล Phantom Brown – ภายในสีครีม
• สีเทา เมทัลลิก Graphite Metallic – ภายในสีครีม
• สีดำ Attitude Black – ภายในสีดำ
• สีขาวมุก Platinum White Pearl – ภายในสีดำ
• สีเงิน เมทัลลิก Silver Metallic – ภายในสีดำ
• สีแดง Premium Red – ภายในสีดำ

ทางด้านระบบความปลอดภัย All-new Toyota Camry2019 (เฉพาะรุ่น 2.5 HV Premium) มาพร้อมกับเทคโนโลยี Toyota Safety Sense ซึ่งประกอบด้วย

• ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PRE-COLLISION SYSTEM)
• ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (LANE DEPARTURE ALERT)
• ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (DYNAMIC RADAR CRUISE CONTROL)
• ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AUTOMATIC HIGH BEAMS)

รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐาน อาทิ

• ถุงลมเสริมความปลอดภัย 9 ตำแหน่ง (รุ่นย่อย 2.5 HV Premium) และ 7 ตำแหน่ง สำหรับรุ่นย่อยที่เหลือ
• กล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อม Back Guide Monitor
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
• สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal)

นอกเหนือจากความสปอร์ตแบบพรีเมียม All-new Toyota Camry2019 ยังคงขายความมั่นใจในระยะยาวตามสไตล์ Toyota ด้วย

• การรับประกันคุณภาพรถใหม่นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
• ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี
• ระบบ Hybrid รับประกัน 5 ปี
• แบตเตอรี่ Hybrid รับประกัน 10 ปี
• รับประกันราคาขายต่อในอนาคต โดย Toyota Sure ของรุ่น Hybrid (GFV)
• สามารถเพิ่มแพ็กเกจประกันภัย 3 ปี และบำรุงรักษาระยะยาว 5 ปี (Toyota CONVINI-ULTIMATE)

ใครที่สนใจ All-new Toyota Camry2019 ใหม่ สามารถสั่งจองได้ที่ศูนย์บริการ Toyota ทั่วประเทศ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจหรือไม่รีบ รอชม All-new Honda Accord 2019 ใหม่ ก็สมเหตุผลที่จะรอคอย เพราะเราเชื่อว่าคู่แข่งจัดเต็มเช่นกันแน่ ถึงเวลานั้นค่อยตัดสินใจก็ยังทัน

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Toyota Yaris Crossover 2019 โผล่จำหน่าย ที่ไต้หวัน ช่วงล่างยกสูงขึ้นจริง 210 มม. Toyota Yaris Crossover2019 โผล่จำหน่าย ในราคาเริ่ม 674,000 บาท

สำหรับ Toyota Yaris ที่จำหน่ายในไทย ถูกตีตั๋วเด็ก จับใส่เครื่องยนต์ 1,200 ซี.ซี. ลงโครงการอีโคคาร์ และในปลายปี 2017 ปล่อยตัวถังซีดาน Toyota Yaris Ativ ที่ให้ออปชั่นแบบจัดหนัก และตามด้วยตัวถัง 5 ประตู Toyota Yaris ที่ออปชั่นล้อไปกับซีดาน ก่อนที่จะมีอัปเดตอีกครั้ง ในเดือนตุลาคม 2018 ที่ปล่อยออปชั่น แบบจัดเต็มในรุ่ปท็อป ให้เบาะหนัง และการตกแต่ง บาคาร่า สูตรบาคาร่า

Toyota Yaris – Ativ 2018 เพิ่มรุ่นย่อยท็อปใหม่ ออปชั่นเทียบราคา ต้องร้องว้าว

ในวันที่ 7 มกราคม 2562 โตโยต้า ไต้หวัน ได้เปิดตัวรถใหม่ Toyota Yaris Crossover 2019 และไม่ใช่แค่ชื่อ และการตกแต่ง เพราะ Toyota Yaris Crossover2019 ถูกปรับปรุงช่วงล่าง ยกสูงให้จริง ๆ จากเดิมที่ 135 มม. เป็น 210 มม.

Toyota Yaris Crossover2019 มาในชุดแต่ง แบบครอสโอเวอร์ และสีทูโทน

โดยหลัก ๆ ทั้งดีไซน์ไม่ต่างจาก Toyota Yaris เดิม เพิ่มเติมคือ อุปกรณ์อย่าง ชายกันชน สีดำด้าน ที่เป็นดีไซน์ แบบรถยนต์ครอสโอเวอร์ ที่ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เลือกหลังคาและกระจกมองข้างสีดำ ให้รถเป็นแบบทูโทน รับกับด้านล่าง ภายในตกแต่ง ด้วยหนังสีน้ำตาลทูโทน ซอฟต์ทัชที่คอนโซลหน้า และแผงข้างประตู ตัวถังมีให้เลือก ทั้งหมด 4 สี ได้แก่ แดง, น้ำเงิน, ขาว และเทา

Toyota Yaris Crossover2019 มาพร้อมขุมกำลัง 1.5 ลิตร แบบ Vios

ในต่างประเทศ Toyota Yaris คือตัวถัง 5 ประตู และ Toyota Vios คือตัวถัง 4 ประตู (Yaris Ativ) ใช้เครื่องเบนซิน 4 สูบ 1,496 ซี.ซี.  ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ CVT 7 สปีด เคลมอัตราสิ้นเปลือง 16.4 กม./ลิตร

Toyota Yaris Crossover2019 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

• ราคาจำหน่ายรุ่น Classic อยู่ที่ 649,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว ๆ 674,000 บาท
• ราคาจำหน่ายรุ่น Luxury  อยู่ที่ 695,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว ๆ 721,000 บาท

สำหรับในไทยอาจจะไม่มี Toyota Yaris Crossover2019 จำหน่าย แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงถ้าคิดอยากจับ Toyota Yaris ในบ้านเรามายกสูงเป็น Crossover บ้าง เพราะปรกติแล้วพาร์ตตกแต่งรถยนต์ หรือของโมดิฟายรถส่วนใหญ่ ก็มาจากไต้หวันอยู่แล้ว ด้วยราคาค่าเงินที่ใกล้เคียงกัน และมีชิปปิ้ง พร้อมใช้งานเพียบ

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

All-new Toyota Supra 2019 รถสปอร์ตในตำนานของ Toyota เผยโฉมดีทรอยต์ ออโต้ โชว์ อวบ สั้น ขับมัน เต็มไม้เต็มมือ โดย All-new Toyota Supra 2019 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย แรงสุด 340 แรงม้า และไม่ใช่รถสปอร์ตราคาถูก พร้อมวางขายญี่ปุ่นก่อนกลางปีนี้

Toyota Supra รถสปอร์ตชื่อก้องโลกไม่แพ้ Nissan Skyline GT-R, Honda NSX และ Mazda RX-7  ที่ขึ้นแท่นตำนาน JDM (Japan Domestic Market) กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 17 ปี ในฐานะ All-new Toyota Supra 2019 เจเนอเรชั่นที่ 5 ภายใต้แผนกมอเตอร์สปอร์ต TOYOTA GAZOO Racing พร้อมกับตั้งเป้าให้เป็น Toyota Supra ที่สุดยอดกว่าเคย บาคาร่า สูตรบาคาร่า

โดย All-new Toyota Supra2019 จะถูกจัดอยู่ในอนุกรมของ GR sports ซึ่ง TOYOTA GAZOO Racing หมายมั่นให้ All-new Toyota Supra 2019 ขับได้สนุกสุดเหวี่ยง มีการบังคับควบคุมเฉียบขาดแบบเพียวสปอร์ตคาร์ 2 ที่นั่ง อย่างแท้จริง ด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ ๆ ดังนี้

• ฐานล้อสั้น, ท่ายืนมั่นคง และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ตัวแปรสำคัญซึ่งส่งผลโดยตรงกับการบังคับควบคุม (Handling) ที่ว่องไว มั่นใจ (สังเกตได้จากรถสปอร์ต Porsche ก็จะฐานล้อสั้น ส่วน Ferrari จะได้ยินคำว่า Berlinetta บ่อย ๆ เพราะถ้ามี etta ต่อท้ายตีความได้เลยว่าสั้นหรือเล็กกว่าปกติ รถแข่งก็จะใช้ฐานล้อสั้นเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เพื่อความว่องไวเป็นพิเศษ)
   
• ดังนั้น All-new Toyota Supra 2019 จึงมีฐานล้อสั้นกว่า Toyota 86 สปอร์ตรุ่นเล็ก ถึง 100 มม. ภายในมี 2 ที่นั่ง คับแคบตามสไตล์เพียวสปอร์ต เน้นการขับขี่ล้วน ๆ ไม่เน้นโดยสารทางไกลและคุณภาพการขับขี่ (Ride Quality) แบบ สปอร์ตจีที รวมถึงไม่มีพื้นที่ให้เก็บสัมภาระมากนัก
   
• จุดศูนย์ถ่วงของ All-new Toyota Supra2019 ต่ำกว่า Toyota 86 ที่ใช้เครื่องยนต์สูบนอนเสียอีก
   
• All-new Toyota Supra2019 มีการกระจายน้ำหนักให้ตกลงบนเพลาหน้า-หลัง 50:50 เพื่อความสมดุล เป็นกลางขณะเข้าโค้ง

นอกจากนี้ โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมและเหล็กกล้าของ All-new Toyota Supra2019 ยังแข็งแกร่งทนการบิดตัวเพื่อรองรับการขับขี่ในระดับสูง เหนือกว่า Toyota 86 ถึง 2.5 เท่า จากส่วนผสมของเนื้อโลหะที่ต่างกัน แถม Toyota ยังกล้าเคลมด้วยว่าแข็งแรงกว่า Lexus LFA ซูเปอร์คาร์รุ่นพี่ที่ใช้โครงสร้างห้องโดยสารคาร์บอนไฟเบอร์เสริมแรงอีกด้วย

ขณะที่ระบบกันสะเทือน All-new Toyota Supra2019 ได้รับการออกแบบใหม่ ด้านหน้าเป็นแบบ Double-joint spring strut (ก็น่าจะยกมาจาก BMW นั่นแหละ) ด้านหลัง Multi-link ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาเพื่อลด Unsprung weight (แรงกระทำต่อตัวถังส่วนเกินจากที่ Damper ดูดซับได้) และมีความแข็งแกร่งสูง

โดย All-new Toyota Supra2019 รุ่นย่อย RZ และ SZ-R จะได้ระบบกันสะเทือนแบบ Adaptive Variable Suspension ซึ่งแดมเปอร์ในแต่ละล้อสามารถปรับสภาพได้ตามสถานการณ์และรูปแบบการขับขี่ เพื่อความสบายในการเดินทางและยังมั่นใจได้ยามใช้ความเร็วสูง

ในส่วนของดีไซน์ All-new Toyota Supra2019 ยึดแนวคิด “Condensed Extreme L6 FR ‘TOYOTA’ Sports.” ซึ่งหมายถึง สุดยอดรถสปอร์ตช่วงสั้น เครื่องยนต์วางหน้า 6 สูบเรียง ขับเคลื่อนล้อหลัง ผลที่ได้คือรถสปอร์ตหน้ายาวสำหรับเครื่องยนต์แถวเรียงแบบ 6 สูบ ห้องโดยสารขนาดเล็ก พอดีแค่ 2 ที่นั่ง และถอยร่นไปท้ายรถ เน้นสัดส่วนโค้งซุ้มล้อ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลังตามสูตรสำเร็จ

ขณะที่ภายในห้องโดยสาร All-new Toyota Supra2019 เน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ไม่นอกเรื่อง แต่ให้ความรู้สึกสูงราคาด้วยวัสดุคุณภาพดี จึงมีเพียงเบาะนั่งกระชับลำตัว คั่นกลางด้วยคันเกียร์ไฟฟ้า เหนือขึ้นไปเป็นแผงควบคุมอุปกรณ์และจอ TFT ขนาด 8.8 นิ้ว แสดงค่าต่าง ๆ ในรูปแบบของดิจิทัล

All-new Toyota Supra2019 จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย 2 เครื่องยนต์ 3 ระดับความแรง (สำหรับตลาดญี่ปุ่น) ดังนี้

• RZ

ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบเรียง ขนาดความจุ 3.0 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 นิวตันเมตร และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที

• SZ-R

ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 นิวตันเมตร และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,550-4,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.2 วินาที

• SZ

ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 4,500-6,500 นิวตันเมตร และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,450-4,200 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที

ทั้งนี้ All-new Toyota Supra2019 จะวางจำหน่ายทั่วโลก และไม่ใช่รถสปอร์ตราคาถูกแบบ Toyota 86 ไม่ได้บ้าพลังแบบ Nissan GT-R แต่จะว่องไว กระฉับกระเฉง ขับสนุกแบบเพียวสปอร์ต โดยญี่ปุ่นจะวางตลาดก่อนเป็นแห่งแรกช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือภายในครึ่งแรกของปีนี้

ถ้าใครเงินถึงเราว่า All-new Toyota Supra2019 น่าสนใจมาก (มากกว่า All-new BMW Z4 2019 แฝดคนละฝาที่พัฒนามาร่วมกันเสียอีก) เพราะอะไรที่ Akio Toyoda ประธาน Toyota คนล่าสุด (เป็นทายาทตระกูล Toyota ด้วย) จัดให้เราว่าไม่ธรรมดา เนื่องจากแกเป็นสายมอเตอร์สปอร์ตตัวจริงเสียงจริง ขับรถแข่งด้วย อีกทั้งยังเป็นผลงานรุ่นแรกของ TOYOTA GAZOO Racing ที่จะทำตลาดในระดับ Global Maket ซึ่งสำคัญต่อภาพลักษณ์ในอนาคต ทั้งหมดจึงน่าจะช่วยการันตีความยอดเยี่ยมได้ประมาณหนึ่ง 

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Toyota Avanza 2019 ใหม่ เปิดตัวอินโดนีเซีย ราคาเริ่มต้น 4.27 แสนบาท พร้อมกับ Toyota Veloz 2019 ใหม่ สำหรับเวอร์ชั่นที่หรูกว่า Toyota Avanza 2019 ในราคาที่แพงขึ้นอีกเล็กน้อย

Toyota Avanza2019 และ Toyota Veloz 2019 ใหม่ ปรับโฉมเปิดตัวแล้วในอินโดนีเซีย ดูดี มีสไตล์ น่าใช้มากขึ้น แต่ยังคงเป็นรถ MPV เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ราคามิตรภาพเช่นเคย โดย Toyota Avanza2019 มีให้เลือกทั้งหมด 2 เกรด 2 เครื่องยนต์ ส่วน Toyota Veloz เวอร์ชั่นที่หรูหรากว่ามีเกรดเดียว 2 เครื่องยนต์ ดังนี้Toyota Avanza 2019

• 1.5 G เกียร์ธรรมดา                  ราคา 221,250,000 รูเปียห์ (4.95 แสนบาท)
• 1.3 G เกียร์อัตโนมัติ                 ราคา 219,650,000 รูเปียห์ (4.91 แสนบาท)
• 1.3 G เกียร์ธรรมดา                  ราคา 208,950,000 รูเปียห์ (4.67 แสนบาท)
• 1.3 E เกียร์อัตโนมัติ                  ราคา 202,300,000 รูเปียห์ (4.53 แสนบาท)
• 1.3 E เกียร์ธรรมดา                   ราคา 191,100,000 รูเปียห์ (4.27 แสนบาท)

Toyota Veloz 2019

• 1.5 เกียร์อัตโนมัติ                     ราคา 239,450,000 รูเปียห์ (5.35 แสนบาท)
• 1.5 เกียร์ธรรมดา                      ราคา 227,650,000 รูเปียห์ (5.09 แสนบาท)
• 1.3 เกียร์อัตโนมัติ                     ราคา 227,450,000 รูเปียห์ (5.09 แสนบาท)
• 1.3 เกียร์ธรรมดา                      ราคา 215,650,000 รูเปียห์ (4.82 แสนบาท)

โดยทั้ง Toyota Avanza2019 และ Toyota Veloz 2019 จะใช้ตัวถังและได้หน้าใหม่สไตล์เดียวกัน แต่การตกแต่งของ Toyota Veloz 2019 จะสปอร์ตกว่า ทั้งกันชนหน้า-หลัง กระจังหน้ารมดำ รวมถึงติดตั้งสเกิร์ตด้านข้าง ล้ออัลลอยแบบทู-โทน บาคาร่า สูตรบาคาร่า

ส่วนภายใน Toyota Avanza2019 ตกแต่งด้วยสีทู-โทน เบาะผ้าลายเรียบ ต่างจาก Toyota Veloz 2019 จะได้ภายในโมโน-โทน สีดำ แต่เบาะผ้ามีลวดลายและสีสันมากกว่า ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบดิจิทัล เช่นเดียวกับเครื่องเสียงเป็นแบบทัชสกรีน รองรับการเชื่อมต่อ iPhone และ iPod (ยกเว้น Avanza รุ่นย่อย E) แต่ Toyota Veloz เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร จะพิเศษกว่ารุ่นอื่นตรงมีจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ทางด้านขุมพลังของ Toyota Avanza2019 และ Toyota Veloz 2019 เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร จะให้กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 136 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที หากเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.3 ลิตร จะให้กำลังสูงสุด 96.5 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 120 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที

ขณะที่ระบบความปลอดภัยทั้ง Toyota Avanza2019 และ Toyota Veloz 2019 มีให้แบบพอเพียง สมราคาจริง ๆ เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ ด้านหลังเป็นแบบยึด 3 จุด และจุดยึดเบาะ ISOFIX  เป็นต้นสำหรับสีตัวถัง Toyota Avanza2019 ในอินโดนีเซีย มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่

• สีน้ำเงิน Dark Blue
• สีทอง Bronze
• สีแดง Dark Red Mica Metallic
• สีเทา Grey Metallic
• สีดำ Black Metallic
• สีเงิน Silver Metallic
• สีขาว White

และ Toyota Veloz 2019 มีให้เลือกเพียง 4 สี ได้แก่

• สีแดง Dark Red Mica Metallic
• สีดำ Black Metallic
• สีเงิน Silver Metallic
• สีขาว White

แต่สิ่งที่น่าสนใจสุดคือ ไม่แน่ใจว่า Toyota Avanza2019 จะได้ทำตลาดในไทยหรือไม่ เพราะ All-new Toyota Rush 2019 ซึ่งเป็นรถสไตล์เดียวกับ Honda BR-V วิ่งทดสอบในไทยแล้ว เลยไม่แน่ใจว่า Toyota จะปลด Avanza ออกแล้วปล่อยให้ Sienta ฉายเดี่ยว หรือเอามาจำหน่ายทั้งหมดที่ว่ามาเลยก็คงต้องรอดูกันต่อไป คาดว่าภายในปีนี้อาจได้คำตอบ

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Toyota Land Cruiser Heritage Edition รุ่นฉลอง 60 ปี ตำนานรถ SUV ร่างยักษ์ของญี่ปุ่น ตกแต่งพิเศษ 1,200 คัน โดย Toyota Land Cruiser Heritage Edition จะประกาศราคาก่อนเริ่มวางจำหน่ายช่วงกลางปี 2019 แต่ปัจจุบัน Toyota Land Cruiser 2019 ในสหรัฐฯ ก็เริ่มต้นราว 85,000 ดอลลาร์ เข้าไปแล้ว

Toyota เตรียมฉลองให้กับ Toyota Land Cruiser 2019 ชื่อที่ไม่เคยหยุดลุยมาตลอด 60 ปี ซึ่งในไทยประมาณยุค 90 ช่วงที่ราคาน้ำมันต่อลิตรยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินก็เคยฮิตกันไปพักใหญ่ ก่อนกระแสความนิยมในรถ SUV ขนาด Full-Size จะบางลงไปตามกระแสและการบริโภคเชื้อเพลิงแบบเติมหาย ๆ โดยมีรถ Crossover ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันและขับในเมืองได้สะดวกสบายกว่ามาแทนที่

และนี่ก็คือ Toyota Land Cruiser HeritageEdition รุ่นพิเศษฉลองครบ 60 ที่ Toyota ตั้งใจจัดมาให้สายลุยเพื่อฉลองความยิ่งใหญ่ของ Land Cruiser โดยเฉพาะและจำกัดการผลิตเพียงไว้ 1,200 คัน โดยมีแค่ 2 สี ให้เลือกคือ สีดำ Midnight Black Metallic กับสีขาวมุก Blizzard Pearl เท่านั้น บาคาร่า สูตรบาคาร่า

แต่ทั้งนี้ส่วนที่ทำให้ Toyota Land Cruiser HeritageEdition โดดเด่นจริง ๆ คือกระจังหน้าและล้ออะลูมิเนียม (Forged) ขนาด 18 นิ้ว ลายพิเศษ พร้อมโลโก้ Toyota แบบวินเทจที่ดุมล้อ นั้นได้รับการตกแต่งด้วยสีทองแดง รวมถึงเสา D ยังติดตรา Toyota สร้างความรู้สึก Rusty หรูหราและแปลกตายิ่งกว่า Toyota Land Cruiser 2019 ปกติ

ขณะที่ภายในของ Toyota Land Cruiser HeritageEdition จะอุดมไปด้วยการตกแต่งอย่างหรูหรา เบาะหุ้มหนังแท้สีดำและมีการเดินตะเข็บสีทองแดงในจุดต่าง ๆ รอบห้องโดยสาร เช่น พวงมาลัย เบาะ แผงประตู แผงหน้าปัด คอนโซลกลาง เช่นเดียวกับภายนอก นอกจากนี้พรมปูพื้นใน Toyota Land Cruiser Heritage Edition ยังเป็นแบบ all-weather ทำความสะอาดได้ง่ายด้วย

ทางด้านขุมพลัง Toyota Land Cruiser HeritageEdition มีทางเลือกเดียวและเหมือนกับ Toyota Land Cruiser 2019 รุ่นปกติคือ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ วี 8 สูบ ขนาด 5.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 381 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 544 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ECT-i พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (Full-Time) มีลิมิเต็ดสลิปพร้อมดิฟล็อก

ส่วนระบบกันสะเทือนของ Toyota Land Cruiser HeritageEdition ที่ไม่ต่างกับ Land Cruiser 2019 นั้น ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกสองชั้น ด้านหลังคานแข็งแบบ four-link คอยล์สปริง (เพราะให้ระยะยุบ-ยืด ได้มากกว่าแบบปีกนก ซึ่งจำเป็นสำหรับรถออฟ-โรด) แม้ดูไม่ลุยสะใจแบบคานแข็ง-หน้าหลัง ก็ตาม แต่ก็เป็นไปตามยุคสมัยและเพื่อการใช้งานได้ดีทั้งแบบออน-โรด รวมถึงออฟ-โรด

นอกจากนี้ยังมีระบบ Kinetic Dynamic Suspension System (KDSS) ที่พ่วงวงจรไฮดรอลิกเพื่อควบคุมเหล็กกันโคลง ป้องกันการเอียง (Roll) ของตัวถังขณะวิ่งบนถนนเรียบ และรักษาระนาบตัวถังให้ขนานพื้นมากที่สุดเมื่อลุยเส้นทางออฟ-โรด อีกทั้งยังช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่าปกติ (KDSS นี้มีใน Toyota Land Cruiser 2019 อยู่แล้ว)

สำหรับราคา Toyota Land Cruiser HeritageEdition จะยังไม่ประกาศจนกว่าจะใกล้จำหน่าย ซึ่ง Toyota กำหนดไว้ประมาณช่วงซัมเมอร์ของสหรัฐฯ หรือกลางปี 2019 แต่ปัจจุบันราคาเริ่มต้นของ Toyota Land Cruiser 2019 ก็ปาเข้าไป 85,015 ดอลลาร์ หรือราว 2.67 ล้านบาท แล้ว แพงมาก เรียกว่าเน้นทำตลาดบนระดับเดียวกับ Range Rover เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะ Ship มาไทย ไม่ต้องสืบ

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Nissan NV300 Concept-van อวดโฉมงาน Brussels Motor Show 2019 ที่เบลเยียม โชว์ความอเนกประสงค์ของ Nissan NV300 รถแวนเพื่อการพาณิชย์ที่เปลี่ยนเป็นเวิร์กช็อปเคลื่อนที่ขนาดย่อมของช่างไม้มืออาชีพได้สบายมาก

ไม่หรูหราแต่อรรถประโยชน์ Nissan NV300 รถตู้เชิงพาณิชย์ของ Nissan โชว์ความอเนกประสงค์แบบไร้ขีดจำกัด ถูกจับแปลงโฉมเคบินด้านหลังอันกว้างขวางให้กลายเป็นเวิร์กช็อปเคลื่อนที่ขนาดย่อมสุดเก๋ของช่างไม้ให้ลูกค้าได้ชมเป็นตัวอย่าง ดูดีมีสไตล์แบบมืออาชีพในงาน Brussels Motor Show 2019 ที่เบลเยียม บาคาร่า สูตรบาคาร่า

โดย Nissan NV300 Concept-van นี้เป็นผลงาน Bespoke ของ Nissan UK เพื่ออวดความมหัศจรรย์ของ Nissan NV300 รถตู้เชิงพาณิชย์ขนาดกลาง (Light Commercial Vehicle) หรือบางตลาดเรียก Minibus มีหลายรูปแบบตัวถัง ทั้งแบบตู้ทึบ (Panel Van), ตู้ทึบกึ่งโดยสาร (Crew Van) และเพื่อการโดยสาร (Combi) แต่รุ่นที่ Nissan UK นำมาดัดแปลงนั้นเป็นแบบ Panel Van ซึ่งกว้างขวางพอที่จะเปลี่ยนให้เป็นเวิร์กช็อปเคลื่อนที่ในฝันสำหรับช่างไม้

ทั้งนี้พื้นที่ด้านหลังทั้งหมดของ Nissan NV300 Concept-van ตกแต่งด้วยไม้เป็นพรีเซ็นเทชั่นให้เข้ากับธีม “รถของช่างไม้” ผนังด้านข้างทั้งสองฝั่งออกแบบให้เป็นตู้เก็บของ โต๊ะทำงาน พร้อมแบตเตอรี่แบบ portable สามารถเคลื่อนย้ายได้ (Nissan เรียก Nissan Energy ROAM) ขนาดความจุ 700Wh ให้กำลังไฟสูงสุด 1kW ซึ่งสามารถชาร์จไฟด้วยแสงอาทิตย์ได้ด้วยแผงโซลาเซลล์บนหลังคา ในแบบแหล่งพลังงาน “Off-Grid” Power Solution

ส่วนอีกฝั่งออกแบบไว้แขวนเครื่องมือ เช่นเดียวกับบานประตูหลังที่เปิดออกแบบตู้กับข้าวก็ไม่ปล่อยให้ไร้ประโยชน์ และที่เด่นคือตรงกลาง เก้าอี้ถูกออกแบบให้เป็นรางสไลด์เพื่อสะดวกในการเคลื่อนที่สำหรับการทำงาน

อันที่จริงแล้ว Nissan ยุโรป ไม่ได้โฟกัสเพียงแค่จะขายรถ LCV อย่าง Nissan NV300 เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง Solution ต่าง ๆ เพื่อการพาณิชย์สำหรับผู้ประกอบการ เช่น Nissan Energy ROAM หรือการเปิดกว้างสำหรับการดัดแปลงสเปกให้ตอบสนองและตรงกับการใช้งานของแต่ละธุรกิจอย่างเต็มที่

สำหรับ Nissan NV300 ในอังกฤษ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ Visia, Acenta และ Tenka ราคาเริ่มต้นที่ 21,365 ปอนด์ หรือราว 8.76 แสนบาท ถ้าเทียบกับ Toyota (ในอังกฤษ) คู่แข่งคือ Toyota Proace ต่างจาก Toyota Hiace ของไทยที่เป็นรถสไตล์ Cab over Engine ซึ่ง All-new Toyota Hiace ก็จะเปลี่ยนเป็นแบบ Semi-Bonnet Cab แบบเดียวกับ Toyota Proace และ Nissan NV300 แล้วเช่นกัน ทั้งนี้คาดว่าเพื่อความปลอดภัยจากการชน

Nissan NV300 Concept-van เผยโฉมงาน Brussels Motor Show 2019 ที่ประเทศเบลเยียม โดยมีการโชว์ความอเนกประสงค์ของ Nissan NV300 ในการสร้างสรรค์งานไม้ด้วยการปรับแต่งพื้นที่ภายในที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทำงานครบครัน จากรถแวนเพื่อการพาณิชย์เปลี่ยนเป็นเวิร์กชอปเคลื่อนที่ขนาดย่อมของช่างไม้มืออาชีพได้สบายมาก

โดยตัวรถแปลงโฉมเคบินด้านหลังอันกว้างขวางให้กลายเป็นเวิร์กชอปเคลื่อนที่ขนาดย่อมสุดเท่ห์ของช่างไม้ให้ลูกค้าได้ชมเป็นตัวอย่าง ดูดีมีสไตล์แบบมืออาชีพในงาน Brussels Motor Show 2019 ที่เบลเยียม อีกทั้งยังได้รับการออกแบบภายนอกด้วยสติ๊กเกอร์ลายไม้ ร่วมกับการดัดแปลงพื้นที่ใช้สอยภายในด้วยวัสดุไม้รอบด้าน ตั้งแต่โต๊ะ, ตู้ ที่แขวน ไปจนถึงพื้นไม้ และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์สำหรับช่างไม้

โดย Nissan NV300Concept-van นี้เป็นผลงาน Bespoke ของ Nissan UK เพื่ออวดความครบครันและสร้างสรรค์ของ Nissan NV300 รถตู้เชิงพาณิชย์ขนาดกลางหรือ (Light Commercial Vehicle) บางตลาดเรียก Minibus มีหลายรูปแบบตัวถัง ทั้งแบบตู้ทึบ (Panel Van), ตู้ทึบกึ่งโดยสาร (Crew Van) และเพื่อการโดยสาร (Combi) แต่รุ่นที่ Nissan UK นำมาดัดแปลงนั้นเป็นแบบ Panel Van ซึ่งกว้างขวางพอที่จะเปลี่ยนให้เป็นเวิร์กชอปเคลื่อนที่ในฝันสำหรับช่างไม้

ทั้งนี้พื้นที่ด้านหลังทั้งหมดของ Nissan NV300Concept-van ตกแต่งด้วยไม้เป็นพีรีเซนเทชั่นให้เข้ากับธีม “รถของช่างไม้” ผนังด้านข้างทั้งสองฝั่งออกแบบให้เป็นตู้เก็บของ โต๊ะทำงาน และอีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษในรถคอนเซ็ปต์นี้ก็คือ แบตเตอรี่สำรองไฟ Nissan Energy ROAM ความจุ 700Wh กำลังสูงสุด 1kW มีความทนทานสูง ทนแดด ทนฝน ทำงานเงียบ และสามารถชาร์จไฟผ่านแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคา

ส่วนอีกฝั่งออกแบบไว้แขวนเครื่องมือ เช่นเดียวกับบานประตูหลังที่เปิดออกแบบตู้กับข้าว และที่เด่นคือตรงกลาง เก้าอีกถูกออกแบบให้ไปรางสไลด์เพื่อสะดวกในการเคลื่อนที่สำหรับการทำงานของช่างไม้

ที่จริงแล้ว การตลาดของ Nissan ยุโรป ไม่ได้เพียงแค่จะขายรถ LCV อย่าง Nissan NV300 เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแนวทางอื่นๆ เพื่อการพาณิชย์สำหรับผู้ประกอบการ เช่น Nissan Energy ROAM หรือการดัดแปลงสเปกให้ตอบสนองและตรงกับการใช้งานของแต่ละธุรกิจและในสายอาชีพต่างๆได้อย่างเต็มที่ และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าอย่างสูงสุด

สำหรับ Nissan NV300 ในอังกฤษ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ Visia, Acenta และ Tenka ราคาเริ่มต้นที่ 21,365 ปอนด์ หรือราว 8.76 แสนบาท

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME

Nissan Micra 2019 หรือ Nissan March เวอร์ชั่นอังกฤษ แซ่บขึ้นอีกแล้วด้วย 2 ขุมพลังใหม่ เพื่อให้ Nissan Micra 2019 ตอบสนองว่องไว ทันใจกว่าเดิม พร้อมเพิ่มรุ่นย่อย N-Sport

ขณะที่ Nissan March ไทยในปี 2019 ยังอยู่ยงคงกระพันแบบไม่แคร์เวิลด์ว่าตลาดอื่น ๆ ได้เปลี่ยนโฉมกันไปไหนต่อไหนแล้ว จนล่าสุด Nissan Micra 2019 ในอังกฤษ ปรับปรุงขุมพลังใหม่อีกครั้งให้แซ่บขึ้นพร้อมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ N-Sport เป็นทางเลือกให้เราได้มองกันตาปริบ ๆ พร้อมกับคำถามว่า ตกลง All-new Nissan March จะมาไหม บาคาร่า สูตรบาคาร่า

คันขวา รุ่นย่อย N-Sport

แน่นอนว่าเราก็ยังคงไม่มีคำตอบชัดเจน แต่สำหรับเรื่องชาวบ้านอย่าง Nissan Micra2019 ของอังกฤษพอจะบอกได้ว่าแซ่บขึ้น เพราะได้ขุมพลังเบนซินใหม่รวดเดียว 2 บล็อก ได้แก่

เครื่องยนต์ใหม่ 1.0 ลิตร เทอร์โบ IG-T 100

• เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ (IG-T 100) ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตร สำหรับเกียร์ Xtronic (CVT) ที่จะมีให้เลือกเป็นครั้งแรก และ 160 นิวตันเมตร สำหรับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (แทนเครื่องเดิม IG-T 90 ที่ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า)

เครื่องยนต์ใหม่ 1.0 ลิตร เทอร์โบ DIG-T 117 (หัวฉีดตรง)

• เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ หัวฉีดตรง (DIG-T 117) ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

โดย Nissan Micra2019 ในรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ DIG-T 117 จะมีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนและพวงมาลัยใหม่ให้คมมากขึ้นด้วย ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ IG-T 100 นอกจากจะมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้น ทำงานราบเรียบ และที่สำคัญยังประหยัดและปล่อยมลพิษน้อยลงกว่าเดิม

นอกจากนี้ Nissan Micra2019 ในอังกฤษยังเพิ่มรุ่นย่อย N-Sport ใหม่ เน้นอารมณ์สปอร์ต ขับขี่สนุกสนาน ให้เลือกเพิ่มอีก 1 เกรด ทั้งที่ตอนนี้มีมากถึง 5 รุ่นย่อย แล้วได้แก่ Visia, Visia+, Acenta, N-Connecta และ Tenka เป็นเกรดสูงสุด ตามลำดับ เพื่อแข่งกับ Ford Fiesta ST Line, VW Polo R-Line และ Peugeot 208 GT เป็นต้น

ทั้งนี้ Nissan Micra2019 รุ่นย่อย N-Sport จะตกแต่งแนวสปอร์ต อาทิ ใช้คาร์บอนตกแต่งมือจับประตู ล้ออัลลอย รวมถึงคาดดำ Gloss Black รอบคัน ส่วนภายในเบาะหุ้มอัลคันทารา/หนัง กรอบช่องแอร์สีขาว แผงบุหลังคาสีดำ พรมลายสปอร์ต

Nissan Micra2019 ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในอังกฤษช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ราคายังไม่ประกาศ ซึ่งปัจจุบัน Nissan Micra รุ่นพื้นฐานเริ่มต้นประมาณ 13,000 ปอนด์ (5.32 แสนบาท) และ 18,510 ปอนด์ (7.58 แสนบาท) ในรุ่นท็อป

แต่สำหรับ Nissan Micra2019 ในประเทศไทยที่ใกล้ตัวนั้นควรจะรู้มากกว่าแต่กลับกลายเป็นว่ายังไม่รู้อะไรที่แน่ชัดเลย ปูเสื่อรออย่างมีความหวังกันต่อไป

ที่มา : pgslot , PG SLOT , PGSLOTGAME