Toyota JPN Taxi รถแท็กซี่ญี่ปุ่นยุคใหม่จาก Toyota แทนที่ Toyota Crown สะท้อนความสุดยอดด้านบริการ สะดวกสบายสไตล์ลอนดอนแท็กซี่ หรือ London Black Cab ด้วยราคาขายพอ ๆ กับ Toyota Alphard
Toyota กับภาพลักษณ์การเป็นรถสาธารณะอย่างแท็กซี่นั้นดูจะแยกออกจากกันไม่ขาดจริง ๆ ซึ่งอาจไม่ใช่แค่เฉพาะเมืองไทย ที่ Toyota Corolla Altis มักถูกมองว่าเป็นรถแท็กซี่ด้วยทัศนคติในเชิงลบสำหรับคนบางส่วน แม้ความเป็นจริงในหลายประเทศคือไอคอน (เหมือนที่รถตุ๊กตุ๊กเป็น) ทั้งเยอรมนี อังกฤษ อเมริกา ที่บ้างก็เป็นรถชั้นดี ทนทานหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง หรือเป็นได้ทั้งหมดอย่างรถแท็กซี่ในญี่ปุ่น บาคาร่าสูตรบาคาร่า
Toyota JPNTaxi รถแท็กซี่ญี่ปุ่นรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Toyota เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 เพื่อทดแทน Toyota Crown Comfort (S130) ซึ่งมาพร้อมกับสไตลิ่งใหม่เลียนแบบ London Black Cab แต่ Toyota JPNTaxi สร้างสรรค์ให้มีฟังก์ชันที่บ่งบอกถึงความเอาใจใส่แบบญี่ปุ่นอย่างแท้ทรู เช่น
Toyota Mark X 2019 Final Edition ซีดานขนาดกลาง เตรียมอำลาสายการผลิตปลายปี 2562 ในยุคที่รถขับเคลื่อนล้อหลังเกินความจำเป็น โดย Toyota MarkX 2019 Final Edition ในญี่ปุ่นจะได้รับการตกแต่งพิเศษราคาปรับเพิ่มกว่าปกติเล็กน้อย
เตรียมปิดฉากซีดานขนาดกลางขับหลังของ Toyota ไปอีกรุ่น สำหรับ Toyota MarkX ซึ่งเกิดมาสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่อยากได้รถขนาดเดียวกับ Toyota Camry แต่ไม่ชอบฟีลลิ่งของการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า และตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยรุ่นพิเศษ Toyota Mark X 2019 Final Edition ก่อนอำลาสายการผลิตปลายปี 2562 บาคาร่าสูตรบาคาร่า
Toyota MarkX 2019 Final Edition รุ่นฟินาเล่ของตระกูล Mark X (ซึ่งสืบเชื้อสายมายาวนานจาก Toyota Corona Mark II ในปี 1968 และไทยเองก็มีจำหน่ายด้วยเช่นกัน) โดยเป็นการนำเอา Toyota MarkX 2019 รุ่นย่อย 250S/ 250S Four ที่มีจำหน่ายในญี่ปุ่น ด้วยราคาเริ่มต้น 3,207,600 เยน (9.19 แสนบาท) มาตกแต่งให้พิเศษส่งท้าย ทั้งภายใน-ภายนอก ดังนี้
Toyota Hilux Revo 2019 ยุโรป เตรียมปล่อยรุ่นพิเศษ Special Edition รองรับยอดขายรถกระบะที่ขยายตัวสูงขึ้น โดย Toyota Hilux Revo2019 จะมาพร้อมบุคลิกสปอร์ต และติดตั้ง Toyota Safety Sense เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อย
Toyota Hilux Revo Special Edition2019
Toyota ยุโรป ส่ง Toyota Hilux Revo Special Edition2019 รุ่นตกแต่งพิเศษสำหรับเป็นไฮไลต์ในงาน Commercial Vehicle Show 2019 ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึง 2 พฤษภาคม 2562 ด้วยบุคลิกที่สปอร์ตกว่ารุ่นปกติ กำหนดเริ่มวางขายเดือนสิงหาคม แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ Toyota HiluxRevo รุ่นปี 2019 ทุกรุ่นย่อย จะได้ Toyota Safety Sense เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน บาคาร่าสูตรบาคาร่า
Toyota Hilux รุ่นย่อย Invincible
ทั้งนี้ถ้าพูดถึงการตกแต่งภายนอกและภายใน Toyota HiluxRevo Special Edition 2019 ของยุโรป (อันที่จริงใช้ชื่อสั้น ๆ แค่ว่า Toyota Hilux) ก็ไม่ได้แซ่บเกินหน้า Toyota Hilux Revo ของไทยนัก และปกติมีแค่รุ่นย่อยสูงสุดอย่าง Invincible X ตัวถัง 4 ประตู ดับเบิ้ลแค็บ รุ่นเดียวเท่านั้นที่ได้กระจังหน้าใหม่หกเหลี่ยม
ขณะที่ภายใน Toyota Hilux Revo Special Edition2019 ใช้ธีมแบบ All in black คือทุกอย่างดำหมด ตั้งแต่เสาหลังคา แผงบุหลังคา เบาะ และ Trim ตกแต่งรอบห้องโดยสารเน้นสีดำ เปียโน แบล็ก เงาจัด ซึ่งภาพรวมก็ดูเท่ ขรึมกว่ารุ่นปกติที่ไม่ดำล้วน รวมถึง Trim เป็นสีเงินอาจไม่ค่อยจะสปอร์ตนัก
Toyota Hilux รุ่นย่อย Invicible X ติดตั้งล้อ+หลังคากระบะหลัง เป็นอุปกรณ์เสริม
แต่ที่น่าสนใจสุด ๆ และเป็นไปได้ว่าอนาคตเผื่อ Toyota Hilux Revo2019 ไทย จะติดตั้งมาให้บ้างคือระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense โดยรุ่นปี 2019 ในยุโรป นับตั้งแต่รุ่นที่วางจำหน่ายเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป จะติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับทุกรุ่นย่อย (ปัจจุบันเป็นออปชั่น) อันประกอบด้วย
Toyota 86 Hakone Edition 2020 รุ่นพิเศษเตรียมขายสหรัฐฯ สำหรับนักขับที่หลงใหลสไตล์ JDM ตั้งชื่อตามหนึ่งในเส้นทางนักซิ่งของอนิเมชั่น Initial D แต่ญี่ปุ่นเองกลับใช้ Toyota 86 British Green Limited เสียอย่างนั้น…ถึงจะต่างชื่อ เอาเป็นว่าขับแล้วบันเทิงเหมือนกัน
Toyota 86 Hakone Edition2020
งงกับ Toyota สำหรับรุ่นพิเศษของ Toyota 86 ปี 2020 ซึ่งตอนแรกก็ดูปกติเหมือนผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ที่มักออกเวอร์ชั่นฉลองนู่น นี่ นั่น หรือทำให้มันแตกต่างกว่าเดิมด้วย Toyota 86 GT British Green Limited ในบ้านเกิด ทั้งที่มันก็แปลกหน่อย ๆ แล้ว สำหรับรถสปอร์ตญี่ปุ่นแต่ใช้สีพิเศษชื่อ British Green แต่มันยิ่งกลับตาลปัตรกว่าตรงที่ในอเมริกาใช้ชื่อ Toyota 86 Hakone Edition2020
คืออันที่จริงต้องบอกว่า British Green เป็นชื่อที่ดูไม่น่าจะมีอะไรเชื่อมโยงกับ Toyota 86 ได้เลย เพราะสีเขียว British Racing Green มาจากสีประจำชาติของรถแข่งอังกฤษ (ในยุคหนึ่งแต่ละประเทศจะใช้สีเฉพาะ เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถแข่งจากประเทศไหน และอังกฤษเป็นสีเขียว อิตาลี-สีแดง เยอรมนี-สีขาว ฝรั่งเศส-สีน้ำเงิน เป็นต้น) ซึ่งมันจะไม่แปลกนัก ถ้าไม่ใช่รุ่นพิเศษขายในญี่ปุ่น แต่ Toyota ให้เหตุผลว่า สีรถแข่งอังกฤษคือสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในสนาม เลยถ่ายทอดมาสู่ Toyota 86 (แบบนี้ก็ได้เหรอ) บาคาร่าสูตรบาคาร่า
ล่าสุด Toyota สหรัฐฯ ก็เตรียมวางจำหน่าย Toyota 86 รุ่นพิเศษแบบเดียวกัน โดยใช้ชื่อใหม่ ต่างออกไปว่า Toyota 86 Hakone Edition2020 เป็นการเชิดชูเส้นทาง Hakone Turnpike ทางด่วนขวัญใจนักขับในญี่ปุ่นและปรากฏในอนิเมชั่น Initial D ตอนที่ 9-11 ถนนเส้นนี้นอกจากจะสวยแล้วยังดังขนาดที่ว่ามีโปรแกรมเช่ารถสปอร์ตให้ขับเล่น (เหมือนในการ์ตูน) กลายเป็นจุดขายหนึ่งของการท่องเที่ยวไปเลยทีเดียว ซึ่งถนนเส้นนี้ก็อยู่ในญี่ปุ่น…ไม่ใช่อเมริกา
Toyota 86 GT British Green Limited2020
เอาเป็นว่าทั้ง Toyota 86 Hakone Edition2020 และ Toyota 86 GT British Green Limited 2020 เป็นรุ่นพิเศษที่มีเนื้อเรื่องเดียวกัน เป็นการนำเอา Toyota 86 รุ่นย่อย GT มาอัปเกรดใหม่ ด้วยตัวถังสีเขียวพิเศษ (เขียวแมลงทับ) ตัดกับล้อสีบรอนซ์ ขนาด 17 นิ้ว และสปอยเลอร์หลังสีดำ
ส่วนภายในของ Toyota 86 Hakone Edition2020 และ Toyota 86 GT British Green Limited 2020 ก็เหมือนกันทุกประการ ยกเว้นตำแหน่งพวงมาลัย เวอร์ชั่นญี่ปุ่นขวา อเมริกาซ้าย เบาะหุ้มอัลคันทารา ตัดกับหนังสีแทนในส่วนของปีกเบาะ แผงประตู แผงหน้าปัด ตกแต่งด้วยอัลคันทารา พร้อมโลโก้ 86 เป็นต้น
สำหรับขุมพลัง Toyota 86 Hakone Edition2020 และ Toyota 86 GT British Green Limited 2020 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจาก Toyota 86 รุ่นย่อย GT ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 205 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 212 นิวตันเมตร (รุ่นเกียร์ธรรมดา) และลดลงเหลือ 200 แรงม้า กับแรงบิด 205 นิวตันเมตร หากเป็นเกียร์อัตโนมัติ
ซึ่งความแตกต่างเพียงไม่กี่อย่างระหว่าง Toyota 86 Hakone Edition 2020 กับ Toyota 86 GT British Green Limited 2020 ตามข้อมูลที่ปรากฏตอนนี้คือ ของญี่ปุ่นจะมีเบรก Brembo หน้า-หลัง, โช้คอัพ SACHS และแผ่นปิดใต้ท้องรถเพื่อให้ลมไหลผ่านแบบไม่สะดุด เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ เป็นออปชั่นให้เลือกติดตั้งเพิ่ม
ทั้งนี้ Toyota 86 GT British Green Limited 2020 ตั้งราคาในญี่ปุ่นไว้ 3.25 ล้านเยน หรือประมาณ 9.3 แสนบาท ขณะที่ Toyota 86 Hakone Edition 2020 สำหรับตลาดสหรัฐฯ ยังไม่ประกาศราคา แต่จะวางขายช่วงเกือบ ๆ ปลายปี (Fall 2019) ก็นับว่าเป็นรุ่นพิเศษที่ดูสลับขั้ว ผิดที่ผิดทางกันดี แต่ทั้ง 2 ชื่อ น่าจะสื่อถึงความเป็นรถสปอร์ตเล็กขับสนุกได้ไม่มากก็น้อย
Suzuki Swift Sport Katana 2019 รุ่นพิเศษเพียง 30 คัน ที่ขับได้มันสะใจกว่า Suzuki Swift Sport ในราคาหลักล้าน และที่แย่ไปกว่านั้นคือ Suzuki Swift Sport Katana2019 มีเฉพาะเนเธอร์แลนด์ เอ…หรือดีแล้ว !!!
ทั้งนี้ Suzuki Swift Sport Katana2019 จะมีจำกัดและวางขายเฉพาะเนเธอร์แลนด์เพียงแค่ 30 คัน เท่านั้น โดยเป็นการนำเอา Suzuki Swift Sport เวอร์ชั่นแรง ที่ปกติไทยก็ไม่มีขายอยู่แล้ว มาตกแต่งพิเศษในธีมเดียวกับ All-new Suzuki Katana2019 ด้วยตัวสีถังที่มีให้เลือกแค่ สีเทา และสีดำ คาดลายกราฟิก ทาปากแดง พร้อมสัญลักษณ์ Katana แต่ล้อ OZ สีดำ ลาย 9 ก้าน เป็นออปชั่น ถ้าไม่จ่ายเงินเพิ่ม ก็จะได้ล้อลายดอกไม้ปัดขอบ ขนาด 17 นิ้ว เหมือน Suzuki Swift Sport ปกติ บาคาร่าสูตรบาคาร่า
ส่วนภายในห้องโดยสารของ Suzuki Swift Sport Katana2019 จะได้เบาะแบบสปอร์ตเหมือน Suzuki Swift Sport แต่เปลี่ยนจากหุ้มด้วยผ้าสีดำเป็นหนังและวัสดุสังเคราะห์ Dinamica ปักตัวอักษร KATANA ที่สันปีกพนักพิงหลัง เดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง รวมถึงพวงมาลัย 3 ก้าน แบบปาดเรียบด้านล่าง ก็แปะ Plate อักษร KATANA ลงไปด้วย
และถึงแม้ขุมพลังของ Suzuki Swift Sport Katana2019 จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน K14C Boosterjet แบบ 4 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร เหมือน Suzuki Swift Sport ที่ช่วยฉุด กระชาก ลากดึง ซิตี้คาร์รุ่นนี้ให้ข้ามกำแพงความเร็วที่ 200 กม./ชม. ไปได้ พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.1 วินาที
แต่ Suzuki Swift Sport Katana2019 มีการเพิ่มเติมอุปกรณ์ทางเทคนิคเข้าไปอีก ซึ่งที่แจ้งไว้มี 3 รายการ ได้แก่
โช้คอัพ HKS รุ่น Hipermax MAX IV GT Chassis
ชุดท่อไอเสีย Remus Cat-Back พร้อมปลายท่อ Black Chrome
สตรัตบาร์ Cusco Power Brace
ซึ่ง Suzuki Swift Sport Katana2019 จะวางขายในราคา 28,999 ยูโร หรือราว 1.03 ล้านบาท และแพงกว่าตัวท็อปอย่าง Suzuki Swift Sport อยู่ 4,000 ยูโร (ประมาณ 1.42 แสนบาท) และก็น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบความเร้าใจในการขับขี่ แต่งบไม่ถึงหรือไม่ทันครอบครอง Toyota Yaris GRMN ความโหดระดับ 200 แรงม้า ในราคา 38,950 ยูโร (ประมาณ 1.4 ล้านบาท)
ส่วนเมืองไทยคงไม่ได้แม้แต่ฝันถึง Suzuki Swift Sport ตราบเท่าที่คาดหวังว่าจะได้ของแรง แต่จ่ายในราคาอีโคคาร์ เพราะถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ในแบบที่ว่า สามารถสั่งนำเข้ามาเลยก็ได้ แค่ต้องยอมจ่ายแพงถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว